หน้าเว็บ


วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2561

RACHA PH METER ราชา พีเอชมิเตอร์

ราชา พีเอชมิเตอร์
ราคา 750 บาทรวมส่งเก็บเงินปลายทาง
0809898770












🔥วัดความเป็นกรดของดิน🔥พีเอชมิเตอร์2in1🔥ยอดขายสูงสุดในประเทศไทย🔥
🔥ราชา พีเอชมิเตอร์2in1🔥
🔥ราคา 750 บาท ส่งฟรี
🔥เก็บเงินปลายทางหรือโอนก่อนก็ได้ ไม่เสียค่าธรรมเนียมแล้ว
🔥รับประกันสินค้า🔥
🔥1 เดือน สำหรับการใช้งานปกติ ไม่แตกหัก
🔥ความเสียหายจากการขนส่งทุกกรณี 7 วันเปลี่ยนตัวใหม่
🔥คุณสมบัติของเครื่อง🔥
🔥ราชา พีเอชมิเตอร์
🔥วัดความเป็นกรดด่างของดิน(ไม่ควรนำไปวัดกับน้ำเพื่อป้องกันขาเครื่องวัดเสียหาย)
🔥ราชา พีเอชมิเตอร์🔥วัดค่าความสมบูรณ์ของดินโดยรวม NPK ว่าเพียงพอสำหรับพืชหรือไม่
🔥การบำรุงรักษา🔥
การทำความสะอาด เมื่อเลิกใช้งาน เอาผ้าสะอาดเช็ดเบาๆ ที่ขาทั้งสาม หรือผ้าที่มีความชิ้นนิดหน่อย ห้ามล้างน้ำด้วยน้ำยาล้างจานหรืออื่นๆ เพียงผ้าสะอาดเช็ดเบาๆเท้านั้น แล้วเก็บในที่แห้ง อย่าให้หล่น เท่านี้อายุการใช้งานก็จะยาวนาน ผมเองใช้มา 3-4 ปีแล้ว แค่เก็บรักษา อย่างระมัดระวังเท่านั้น
🔥ข้อควรระวัง...อย่าเสียบขาของเครื่องวัด ลงในดินที่แข็งจัด ถ้าดินแข็งให้ราดน้ำ แล้วทิ้งไว้สักครู่ เพื่อป้องกันขาของเครื่องวัดเสียหาย
🔥สินค้าผลิตประเทศจีน🔥นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
สวนราชินี 190/2 หมู่ 9 ต.เทพนคร อ เมือง จ กำแพงเพชร 62000
🔥โทร-ไลน์ 0809898770-0918712395
🔥รายละเอียดเพิ่มเติมและวิธีใช้ การอ่านค่า
http://mainboard2012.blogspot.com/2018/04/blog-post.html




































ราชา พีเอชมิเตอร์
ราคา 750 บาท  ส่งฟรี
เก็บเงินปลายทางหรือโอนก่อนก็ได้ ไม่เสียค่าธรรมเนียมแล้ว

รับประกันสินค้า
- 1 เดือน สำหรับการใช้งานปกติ ไม่แตกหัก
- ความเสียหายจากการขนส่งทุกกรณี 7 วันเปลี่ยนตัวใหม่


คุณสมบัติของเครื่อง
วัดความเป็นกรดด่างของดิน(ไม่ควรนำไปวัดกับน้ำเพื่อป้องกันขาเครื่องวัดเสียหาย)
วัดค่าความสมบูรณ์ของดินโดยรวม NPK ว่าเพียงพอสำหรับพืชหรือไม่
..............
การบำรุงรักษา

การทำความสะอาด เมื่อเลิกใช้งาน เอาผ้าสะอาดเช็ดเบาๆ ที่ขาทั้งสาม หรือผ้าที่มีความชิ้นนิดหน่อย ห้ามล้างน้ำด้วยน้ำยาล้างจานหรืออื่นๆ เพียงผ้าสะอาดเช็ดเบาๆเท้านั้น แล้วเก็บในที่แห้ง อย่าให้หล่น เท่านี้อายุการใช้งานก็จะยาวนาน ผมเองใช้มา 3-4 ปีแล้ว แค่เก็บรักษา อย่างระมัดระวังเท่านั้น

ข้อควรระวัง...อย่าเสียบขาของเครื่องวัด ลงในดินที่แข็งจัด ถ้าดินแข็งให้ราดน้ำ แล้วทิ้งไว้สักครู่ เพื่อป้องกันขาของเครื่องวัดเสียหาย


สินค้าผลิตประเทศจีน
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
สวนราชินี 190/2 หมู่ 9 ต.เทพนคร อ เมือง จ กำแพงเพชน 62000
โทร-ไลน์ 0809898770-0918712395






















.................................
การวัดความเป็นกรด-ด่าง pH ของดิน
ค่า pH ของดินที่เหมาะสม  คือ 6 –7 (เกิน 7 ดินเป็นด่าง , ต่ำกว่า 6 ลงมาดินเป็นกรด)
1.  ขุดลึกประมาณ 3 - 5 เซนติเมตร ออกไปก่อน
2.  คลุกดินเพื่อให้ดินร่วน ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร  มีเศษ อิฐ หิน รากไม้ หยิบออกจากดินด้วย
3.  เอาน้ำที่เป็นกลาง หรือน้ำดื่มที่ขายเป็นขวดๆ คลุกกับดินให้เข้ากัน(หรือถ้าง่ายๆ ก็เอาน้ำแถวๆนั้น อย่าตักที่อื่นไกลๆมาเพื่อความเที่ยงตรง)
4. เลื่อสสวิชไปที่วัดค่า pH(ตามรูป)
5. ปักขาวัดลงไปในดิน 2 ใน3 นาน 2 นาที แล้วอ่านค่า จากสเกลแถวบน
6. เลิกใช้งานเลื่อนปรับปุ่มไปที่โหมด OFF
7. ทำความสอาดด้วยผ้าเช็ดเบาๆ เอาเศษดินออกจากขาวัด ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือวัสดุอื่นๆเพื่อความเที่ยงตรงในการวัดครั้งต่อไป

.............................
การวัดค่าความอุดมสมบูรณ์ของดิน Fertility
1.  ขุดลึกประมาณ 3 - 5 เซนติเมตร ออกไปก่อน
2.  คลุกดินเพื่อให้ดินร่วน ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร  มีเศษ อิฐ หิน รากไม้ หยิบออกจากดินด้วย
3.  เอาน้ำที่เป็นกลาง หรือน้ำดื่มที่ขายเป็นขวดๆ คลุกกับดินให้เข้ากัน(หรือถ้าง่ายๆ ก็เอาน้ำแถวๆนั้น อย่าตักที่อื่นไกลๆมาเพื่อความเที่ยงตรง)
4.  เลื่อสสวิชไปที่วัดค่า Fertility
5. ปักขาวัดลงไปในดิน 2 ใน3 นาน 2 นาที แล้วอ่านค่า จากสเกลแถวล่าง
6. เลิกใช้งานเลื่อนปรับปุ่มไปที่โหมด OFF
7.  ทำความสอาดด้วยผ้าเช็ดเบาๆ เอาเศษดินออกจากขาวัด ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือวัสดุอื่นๆเพื่อความเที่ยงตรงในการวัดครั้งต่อไป


.
ความหมายของค่าที่อ่านได้
เข็มชี้ไปที่ Too Little (ด้านซ้าย ดินมีปริมาณสารอาหารไม่เพียงพอ ปริมาณจุลินทรีย์ในการย่อยธาตุอาหารในดินต่ำ
ค่าสารอาหารในดินโดยเฉลี่ย 

  • ค่าไนโตรเจน (N) น้อยกว่า 50 ppm
  • ค่าฟอสฟอรัส (P) น้อยกว่า 4 ppm
  • ค่าโพแทสเซียม (K) น้อยกว่า 50 ppm


.
เข็มชี้ไปที่ Ideal (ตรงกลาง)  ดินมีปริมาณสารอาหารเพียงพอ เหมาะสม
ค่าสารอาหารในดินโดยเฉลี่ย

  • ค่าไนโตรเจน (N) 50 - 200 ppm
  • ค่าฟอสฟอรัส (P) 4 - 14 ppm
  • ค่าโพแทสเซียม (K) 50 - 200 ppm


เข็มชี้ไปที่ Too Much (ด้านขวา)  ดินมีปริมาณสารอาหารมากเกินไปอาจมีปัญหาดินเค็ม จะทำให้ราก หรือใบไหม้ ควรตรวจสอบหรือสังเกตุ อาการของพืชที่ปลูก ใบเหลืองหรือไหม้หรือเปล่า
อาจต้องแก้ปัญหาโดยการรดราดน้ำที่หน้าดินเพิ่ม เพื่อชะล้างละลายปุ๋ยส่วนเกินออกไป
ค่าสารอาหารในดินโดยเฉลี่ย 
  • ค่าไนโตรเจน (N) มากกว่า 200 ppm
  • ค่าฟอสฟอรัส (P) มากกว่า 14 ppm
  • ค่าโพแทสเซียม (K) มากกว่า 200 ppm
.....................
อ่านเถอะ ถ้ารักจะทำเกษตร
คำถามก็มีเข้ามาเกือบทุกวัน
คำตอบ มันก็วนซ้ำมาซ้ำไปเช่นเดิม
.
กล้วยไม่โต กล้วยไม่ใหญ่ ..ทำไง
กล้วยเป็นโรค..แก้ยังไง
.
แต่ก็ไม่มีข้อมูลประกอบคำถาม พอถามกลับไปก็ไม่รู้อะไรสักอย่าง
.
กล้วยปลูกมา 5-6เดือนยังไม่โตไปไหน มันต้องดูแค่ 3 อย่าง
.
พิเอชก่อน...อินทรีย์วัตถุ..และความชื้นในดิน..ปัจจัยมันมีแค่ 3 ตัวเท่านี้
.
กล้วยและพืชทุกชนิด จะเจริญเติบโตได้ดี พีเอช ต้องอยู๋ระหว่าง 5.5-7.ไม่มีหลุดไปจากนี้ แต่ถ้าจะให้ระบุต้องไปดูว่าเป็นพืช อะไร แต่ค่านี้ รากพืชสามารถดูดซับ สารอาหารในดินส่งไปยังลำต้น ดอก ใบได้ อันนี้ภาาชาวบ้านที่พอเข้าใจได้
.
ถ้าค่าพีเอชที่วัดได้ ต่ำมากกว่านี้ นั่นแสดงว่าดินเป็นกรด รากพืชเอง ก็ไม่สามารถที่จะดูดซับสารอาหารได้ แม้ว่าจะใส่ปุ๋ยเข้าไป มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสภาพมันไม่เหมาะสม
.
ในทางตรงกันข้าม ดินเป็นกรด กลับปลดปล่อยธาตุโลหะบางชนิดออกมา ถ้ามีปริมาณมาก กลับทำให้พืช ใบเหลือง และตายได้
.
นี่คือสาเหตุที่ดินเป็นกรดพืชไม่โต ใบเหลือง
และ. ในสภาพที่ดินเป็นกรด นั่นคือสภาพที่เหมาะสมที่สุดที่เชื้อรา เชื้อแบตทีเรีย สามารถเจริญเติบโตได้ดีที่สุด..นั่นคือที่มาของโรคพืชต่างๆ มากมาย ไปซื้อยามาฉีด ก็แก้ไปอาทิตย์เดียวก็กลับมาเป็นใหม่ เพราะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ส่วนต้นเหตุคือดินเป็นกรด ยังไม่ได้รับการแก้ใข นั่นเอง
.
อย่างที่สองคือ อินทรีย์วัตถุในดินหรือความอุดมสมบูรณ์ของดิน หรืออาหารในดิน..ที่จะต้องวัด คนเรากินน้ำเปล่าแล้วโตเองไดเ้หรือไม่..พืชก็เช่นกัน เอาแต่รดน้ำ แต่ไม่มีอาหารให้ ยังไงมันก็ไม่โต..พืชกินอาหารผ่านทางรากที่อยู่ในดิน
.
ฉนั้น ในดินต้องมีอาหารสำหรับพืชอย่างเพียงพอตลอดระยะเวลาของการดำรงชีวิตอยู่ของพิช..นั่นคือในดินต้องมีอินทรีย์วัตถุ มีฮิวมัสมีอาหาร ที่มากพอสำหรับพืช...นั่นคือค่าที่สองที่เราต้องวัด ต้องดูแล ในเรื่องของดินที่เราทำการเพาะปลูกพืชทุกชนิด
.
ดินมีปริมาณสารอาหารเพียงพอ เหมาะสม
ค่าสารอาหารในดินโดยเฉลี่ย
ค่าไนโตรเจน (N) 50 - 200 ppm
ค่าฟอสฟอรัส (P) 4 - 14 ppm
ค่าโพแทสเซียม (K) 50 - 200 ppm
รวมถึงธาตอาหารรองและจุลธาตุที่หาได้จากฮิวมัส- อมิโน-และอินทรีย์วัตถุต่างๆ
.
อย่างที่3 คือน้ำ หรือความชื้นในดิน เพราะน้ำคือสื่อ
.
สื่อที่จะเป็นตัวนำพา อาหารต่างๆ ที่รากหาได้เพื่อลำเลียงไปยัง ลำต้น ใบ ดอกและผล ไม่มีน้ำ (ความชื้น)ก็ไม่มีชีวิต
.
ใส่อาหารเข้าไป แต่ไม่ใส่น้ำ ไม่มีน้ำก็ไร้ค่า สูญเปล่า
.
ฉนั้น ความชื้นในดิน ต้องมีอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้กระบวนการส่งอาหาร ขึ้นไปสังเคราะห์แสงเป็นไปอย่างสมบูรณ์...นั่นคือสิ่งที่จะต้องวัด เป็นลำดับที่ 3 สำหรับการปลูกพืช
.
แสงสว่าง คือ ลำดับที่ 4 สำหรับการปลูกพืช โดยเฉพาะ การปลูกแบบผสมผสาน ทำไม่ปลูกมาตั้งนาน ไม่ออกลูก ออกผลสักที
.
คำถามนี้ ต้องดูด้วยว่า มันอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่หรือปล่าว
ปริมาณแสงต่อวันได้รับ อย่างเพียงพอหรือไม่ ถ้าคือว่า ดินดี อาหารพร้อม น้ำเพียบ...ก็อย่ที่ปริมาณแสงต่อวันแล้ว ต้องกลับไปหาข้อมูลว่า พืชหรือต้นไม่้นั้นๆ ต้องการแสงขนาดไหน เท่าไร ต่อวัน ถ้ามันได้น้อยกว่าที่ต้องการ มันก็คงไม่ติดดอก ออกผล ก็จะได้แต่ใบของพืชนั้นๆ แทน
.
ส่วนเรื่องโรค ถ้าพืชแข็งแรงเพราะเราดูแลดี เขาจะมีภูมิคุ้นกันในระดับหนึ่ง แต่ก็ให้เน้นไปที่การป้องกัน ซึ่งถือว่า ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับการซื้อยามานั่งรักษา
.
คุมเชื้อราให้อยู่(ไตรโคเดอมา่)ฆ่าใข่ฆ่าหนอนในดิน(บิวเวอร์เรียและเมทาไรเซี่ยม) ยังมีพวก BT อีก ก็หามาใส่ๆ ฉีดพ่น ในสวนเป็นประจำ อย่าให้ขาด เรียกว่าทำต่าวรางกันล่วงหน่าไว้เลย
.
ถ้าทำได้ครบขนาดนี้ (เรื่องมันง่ายๆนะ) ยังไงมันก็โต เพราะมันครอบคลุม ปัจจัยทั้งหมดแล้ว
.
โปรแทสเซื่ยมฮิวเมส..ตือตัวปลดปล่อยธาตอาหารในดิน ตรงนี้คือเหตุผลหลักในการนำมาใช้กัีบพืชผล ทุกชนิด แต่ยังมีคุณสมบัติอีกนับร้อย ที่สำคุณทางการเกษตร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น